วันอัฏฐมีบูชา หรือ วันวิสาขอัฏฐมี…
เป็นวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ณ มกุฏพันธนเจดีย์ กุสินารา ซึ่งเป็นสถานที่สวมมงกุฏของเหล่าเจ้ามัลละเมืองกุสินารา
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
เหล่าเจ้ากษัตริย์เมืองกุสินาราได้กราบเรียนถามพระอานนท์ว่าจะปฏิบัติต่อพระพุทธสรีระอย่างไรพระอานนท์ได้ตอบว่า ให้พึงปฏิบัติในพระพุทธสรีระเหมือนที่เขาปฏิบัติในพระสรีระพระเจ้าจักรพรรดิฉะนั้น
ให้ห่อพระพุทธสรีระด้วยผ้าใหม่ แล้วซับด้วยสำลี แล้วห่อด้วยผ้าใหม่ รวม ๕๐๐ คู่แล้ว เชิญพระสรีระลงในรางเหล็กอันเต็มด้วยน้ำมัน ครอบด้วยรางเหล็กอื่น แล้วกระทำจิตกาธานด้วยไม้หอมล้วน ถวายพระเพลิงพระสรีระแล้ว สร้างสถูปไว้ที่หนทางใหญ่ ๔ แพร่ง ชนเหล่าใดจักบูชาซึ่งมาลัยของหอม หรือจักอภิวาท หรือจักยังจิตให้เลื่อมใสในพระสถูปนั้น การกระทำเช่นนั้นจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ชนเหล่านั้นสิ้นกาลนาน
เมื่อเหล่าเจ้ามัลละเมืองกุสินาราเตรียมจักยังไฟให้ติดจิตกาธารของพระผู้มีพระภาค ก็มิอาจให้ติดได้ จึงกราบเรียนถามท่านพระอนุรุทธเถระ ทราบว่าเทวดาประสงค์จะให้รอท่านพระมหากัสสป พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป เดินทางไกลจากเมืองปาวามาสู่เมืองกุสินารา ซึ่งรอเป็นเวลา ๗ วัน
เมื่อท่านพระมหากัสสปและภิกษุ ๕๐๐ รูป เข้าไปถึงมกุฏพันธนเจดีย์ กระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมอัญชลี กระทำประทักษิณจิตกาธาน ๓ รอบ ถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้าแล้ว เพลิงทิพย์ก็โพลงขึ้นเอง
ภายหลังจากนั้น เมื่อพระพุทธสรีระถูกเพลิงทิพย์ไหม้แล้ว ท่อน้ำก็ไหลหลั่งมาจากอากาศ น้ำพุ่งขึ้น ไม้สาละ ดับจิตกาธานของพระผู้มีพระภาค พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา ประพรมจิตกาธานด้วยน้ำหอม กระทำสักการะบูชาตลอดเจ็ดวันด้วยการฟ้อนรำ ด้วยการขับ ด้วยการประโคม ด้วยพวงมาลัย
ข่าวการเสด็จดับขันธปรินิพพาน ทราบไปถึงกษัตริย์ในแค้วนต่างๆ กษัตริย์ทั้งหลายเหล่านั้นก็แต่งทูตมาเพื่อขอแบ่งพระพุทธสรีระจากเจ้ามัลละเมืองกุสินารา ในเบื้องต้นเหล่าเจ้ามัลละเมืองกุสินาราไม่ยินยอมแบ่งให้ แต่ท่านโทณพราหมณ์ซึ่งเป็นที่นับของบรรดากษัตริย์ทั้งหลาายนั้น ได้ให้สติ ให้ทุกฝ่ายมีขันติมิให้รบพุ่งกันเพื่อแย่งชิงพระสรีระ และเสนอให้แบ่งออกเป็น ๘ ส่วน เท่าๆ กัน โดยท่านโทณพราหมณ์เป็นผู้ทำหน้าที่นี้
เหล่ากษัตริย์ที่ได้รับการแบ่งพระสรีระในครั้งนั้น
๑ พระเจ้าอชาตศัตรู กรุงราชคฤห แค้วนมคธ
๒ เหล่ากษัตริย์ลิจฉวี เมืองเวสาลี
๓ เหล่ากษัตริย์ศากยะ เมืองกบิลพัสดุ์
๔ เหล่ากษัตริย์ถูลี เมืองอัลกัปปะ
๕ เหล่ากษัตริย์โกลิยะ เมืองรามคาม
๖ พราหมณ์ผู้ครองเมืองเวฏฐทีปกะ
๗ เหล่ากษัตริย์มัลละ เมืองปาวา
๘ เหล่ากษัตริย์มัลละ เมืองกุสินารา
ท่านโทณพราหมณ์ ผู้ทำหน้าที่แบ่งพระสรีระธาตุ ก็ได้ขอตุมพะ (เครื่องตวง) ไปเพื่อบูชา
ส่วนพวกเจ้าโมริยะ เมืองปิปผลิวัน มาถึงภายหลังการแบ่งเสร็จสิ้นแล้วได้นำพระอังคารไปบูชา
.
.
อ้างอิง : http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
ทีฆนิกาย มหาวรรค
มหาปรินิพพานสูตร (๑๖)